ปอ
ปอ-โชติรส รัตนะพีระพงศ์ เจ้าของร้าน “TrueLove cafe” กับคาเฟ่สุนัขที่เริ่มต้นแรกด้วยความหลงใหลในรูปลักษณ์ของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ จนกลายมาเป็นฟาร์มสุนัข Neverland Siberians และต่อยอดมาเป็นคาเฟ่ยอดฮิต ณ ปัจจุบัน ด้วยการบริหารงานที่ใช้ความรักเป็นแรงผลักดันล้วนๆ
ปอ-โชติรส กับ “TrueLove cafe” คาเฟ่สุนัขที่เริ่มต้นด้วยรัก
แรงบันดาลใจสำคัญ ย้อนกลับไปเมื่อสมัยของการเรียนมหาวิทยาลัย คุณปอได้เริ่มเรียนในคณะศิลปศาสตร์ ม.เอแบค ด้วยความรักในด้านภาษา แต่ได้จับงานที่แรกในด้านเรียลเอสเตท ซึ่งเธอก็ทำได้ดีเช่นกัน จนกระทั่งในช่วงเมื่อสิบปีที่แล้วที่งานกำลังไปได้สวย แต่ด้วยความเหงาที่ยังมีเข้ามาในหัวใจ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนความคิดที่ไม่เคยเลี้ยงสัตว์ชนิดไหนมาก่อน มาเป็นความสนใจในสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ชื่อ “ไซบีเรียน ฮัสกี้” กับการตกหลุมรักแรกพบในบุคลิกและนิสัยความเป็นตัวของตัวเองของมัน จนกระทั่งเจ้าเพื่อนแท้ของเธอพันธุ์นี้กลายมาเป็นคาเฟ่แห่งรักแท้ที่ทำให้ชีวิตของคุณปอมีความหมายและมีเป้าหมายอย่างมั่นคงในทุกวันนี้
การบริหารคาเฟ่ด้วยความรัก
“มันมีช่วงหนึ่งที่งานเริ่มลงตัว แล้วเราก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ ก็เลยเริ่มเหงา แล้วก็เครียด พอเครียดก็ชอบหาหมอดู หมอดูก็เลยแนะนำว่าต้องเลี้ยงหมาจะได้คลายเครียด จากตอนแรกเราไม่ชอบเลี้ยงอะไรเลย เพราะคิดว่ามันเป็นภาระที่เราจะต้องรับผิดชอบชีวิตเขา แต่พอมาเจอพันธุ์นี้ ก็ตัดสินใจเอามาเลี้ยง จากตัวเดียวที่เลี้ยง ก็กลายเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัข และจากการที่ได้สัมผัสกับลูกค้าที่ชอบสุนัขพันธุ์นี้ บางคนไม่มีความรู้เลย แต่อยากจะเอาไปเลี้ยง เราก็เลยเกิดความคิดอยากจะมีเป็นร้านขึ้นมา ให้คนเข้ามาสัมผัสกับเขาซะก่อน ไม่ใช่ว่าเขาเหมาะกับคุณอย่างเดียว คุณต้องเหมาะกับเขาด้วย ร้านนี้ก็เริ่มมาได้ปีหนึ่ง ปัญหาตอนแรกที่เจอมีแค่เรื่องของการบริหารในส่วนของอาหาร เพราะไม่คิดว่าคนจะสนใจกันชนิดหลั่งไหลเข้ามาทีเดียว แล้วตอนนั้นเราก็ทำไม่เป็น ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่สองเดือน แต่ในส่วนของน้องหมาเรามีความเป็นระบบระเบียบมาตั้งนานแล้ว และไม่ได้คิดว่าเขาเป็นธุรกิจ แต่คิดว่าเขาเป็นเหมือนลูก เรามองว่าเขาคือรักที่แท้จริงที่เราไม่เคยสัมผัสได้จากคน อย่างเคยจูงหมาตัวหนึ่งที่รักมาก แล้วปรากฏว่ามันมาแย่งกินแฮมเบอร์เกอร์จากเราที่กำลังกินอยู่ ก็กัดเข้าที่ลิ้น เลือดก็ออกไม่หยุด แต่จะบอกว่าไม่มีแวบใดๆ ที่จะโกรธเขาเลย หมาทำให้มุมมองความคิดของเราเปลี่ยนไป เรามีเป้าหมายในชีวิต รู้ว่าตื่นขึ้นมาเราจะต้องทำอะไร ตอนนี้ก็พยายามปรับปรุงทุกสิ่งทุกอย่างในร้านอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา ส่วนอนาคตของธุรกิจนี้ เราก็ไม่ได้มองไปไกลขนาดนั้น คิดแค่ว่าตราบใดที่คนยังนิยมในร้านนี้อยู่ ยังชื่นชอบในหมาของเรา เราก็จะเปิดต่อไป แต่ถ้าหมดความนิยมเมื่อไหร่ เราก็ปิด ก็แค่นั้น เรียกว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดจะดีกว่า”
ข้อคิดสำหรับน้องๆ ที่อยากมีธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง “สำหรับน้องๆ ที่จบใหม่ ถ้าคิดจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง อยากให้ทำด้วยใจรัก ด้วยความมุ่งมั่น อย่าทำอะไรตามเทรนด์หรือความวูบวาบฉาบฉวย ยิ่งถ้าเป็นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงด้วยแล้ว รักอย่างเดียวอาจจะไม่พอเลย ต้องเสียสละ ทุ่มเทและอดทนด้วย เพราะน้องหมาไม่ใช่สินค้า แต่มีชีวิตจิตใจ หัวใจสำคัญของสิ่งที่คุณทำอยู่คือเขา เราต้องคิดถึงเขาเป็นอย่างแรก คิดเหมือนเขาเป็นลูกของเรา ไม่ใช่ว่าเขาจะยังไงก็ช่าง เดี๋ยวตายก็ค่อยว่ากัน การดูแลเขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราต้องคิดตรงนี้ให้ลึกซึ้ง เพราะเราต้องดิวกับชีวิตทั้งชีวิต ถ้าเราให้ Priority เขาไม่ได้ ทุกอย่างที่ทำมาจะไม่ประสบความสำเร็จ”
ติดตามบทสัมภาษณ์ คุณปอ-โชติรส ในคอลัมน์ Worker นิตยสาร Campus Star No.21
Facebook : www.facebook.com/campusstar และอ่านออนไลน์ : mbookstore
No comments:
Post a Comment